โฆษณาแนวนอน728*90

บทความใหม่

ประวัติและวัตถุมงคลหลวงพ่อชิต วัดบางจะเกร็ง อีกหนึ่งเหรียญดีของสมุทรสงคราม

หลวงพ่อชิต วัดบางจะเกร็ง สมุทรสงคราม

          หลวงพ่อชิต วัดบางจะเกร็ง หรือ พระครูประโชตธรรมคุณ มีนามเดิมว่า ชิต มีประเสริฐ เกิดเมื่อวันที่ ๒ เมษายน พ.ศ. ๒๔๓๙ ตรงกับ วันพฤหัสบดี แรม ๕ ค่ำ เดือน ๕  ปีวอก ณ บ้านหมู่ที่ ๓ ตำบลบางแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม โยมบิดาชื่อ เล็ก โยมมารดาชื่อ ชม โดยหลวงพ่อชิตเป็นพี่คนโต และมีน้องร่วมสายเลือดอีก ๔ คน ประกอบไปด้วย

          นายเป้า  มีประเสริฐ
          นายจี่  มีประเสริฐ
          นายช้อย  มีประเสริฐ
          นายชด มีประเสริฐ

          เมื่อหลวงพ่อมีอายุได้ประมาณหนึ่ง คุณพ่อและคุณแม่ ได้ส่งหลวงพ่อไปร่ำเรียนเขียนอ่าน ที่วัดบ้านแหลม โดยศึกษาวิชาให้อ่านออกเขียนได้ หลังจบการศีกษา หลวงพ่อชิตได้ออกมาประกอบสัมมาอาชีพช่วยเหลืองานที่บ้าน

วัดบางจะเกร็ง สมุทรสงคราม

          จนเมื่อถึงปี พ.ศ. ๒๔๕๙ หลวงพ่อชิต มีอายุได้ ๒๑ ปี จึงได้อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดบางจะเกร็ง เมื่อวันที่ ๖ กรกฏาคม พ.ศ. ๒๔๕๙ โดยมี

          พระครูตุ้ม เจ้าคณะแขวงเมือง วัดบางจะเกร็ง เป็นพระอุปัชฌาย์ 

          พระปลัดแหร่ม วัดป้อมแก้ว เป็นพระกรรมวาจาจารย์ 

          พระอาจารย์อุ่ม วัดบางจะเกร็ง เป็นพระอนุสาวนาจารย์

          หลังจากอุปสมบทหลวงพ่อชิตได้ศึกษาเล่าเรียนวิชากับหลวงพ่อตุ้ม เจ้าอาวาสวัดบางจะเกร็ง ซึ่งหลวงพ่อตุ้มท่านนี้เป็นเสือซ่อนเล็บ ท่านมีวิชาการทำตะกรุดโทนและการทำน้ำมนต์ ที่ไม่เป็นสองรองใครชนิดที่ว่า เมื่อชาวบ้านเดือดร้อนต้องการหวังพึ่งพุทธคุณ ไม่ต้องออกไปหาพระดีที่ไหนเลย เดินเข้าวัดบางจะเกร็งเป็นอันจบ

          ปี พ.ศ. ๒๔๖๗ หลังจากที่หลวงพ่อชิตบวชได้ ๘ พรรษา หลวงพ่อตุ้มได้มรณะภาพลง ชาวบ้านต่างพร้อมใจกันนิมนต์ให้หลวงพ่อชิต ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสวัดบางจะเกร็ง 

          วัดบางจะเกร็ง เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ในตำบลบางจะเกร็ง อำเภอเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม วัดบางจะเกร็ง เดิมมีชื่อว่า วัดอินทคงคา เป็นวัดโบราณ เล่าสืบต่อๆ กันมาว่ามีชาวกรุงศรีอยุธยา อพยพมาสมัยกรุงศรีอยุธยาแตกเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๑๐ โดยนายอิน นางบุญมา นายคง และนางบุญมี 

          ได้มาตั้งถิ่นฐานบ้านเรือน และร่วมกันสร้างวัดขึ้นวัดนี้ขึ้นมา ชุมชนแถวคลองบางจะเกร็งเป็นชุมชนคนไทยเชื้อสายมอญ ได้ช่วยกันทำนุบำรุงและปฏิสังขรณ์ ต่อๆ กันมาจนวัดเจริญรุ่งเรือง

          ตั้งเป็นวัดเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๗๓ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาในปีเดียวกัน ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๕๘ สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรสได้เสด็จมายังวัดนี้ และได้รับสั่งให้เปลี่ยนชื่อวัดเป็น "วัดบางจะเกร็ง" ตามชื่อตำบลและใช้ชื่อนี้มาจวบจนปัจจุบัน 

          หลังจากที่หลวงพ่อชิตขึ้นเป็นเจ้าอาวาส ท่านได้พัฒนาวัดและพัฒนาคนในพื้นที่บางจะเกร็ง อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ชาวบ้านและพระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองต่อไป

หลวงพ่อชิต วัดบางจะเกร็ง (พระครูประโชตธรรมคุณ) สมุทรสงคราม


          และด้วยคุณงามความดีของหลวงพ่อชิตนี้เองทำให้ในปี พ.ศ. ๒๔๗๐ หลวงพ่อชิตได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลบางจะเกร็ง 

          และเมื่อถึงปี พ.ศ. ๒๔๘๐ หลวงพ่อชิตก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระครูชั้นสัญญาบัตร โดยมีราชทินนามที่ "พระครูประโชตธรรมคุณ" ซึ่งเป็นราชทินนามเดียวตลอดอายุของท่าน

สมณศักดิ์และตำแหน่งทางศาสนกิจ

          ปี พ.ศ. ๒๔๗๐ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลบางจะเกร็ง และเป็นกรรมการศึกษา

          ปี พ.ศ. ๒๔๗๔ เป็นพระครูกรรมการศึกษา

          ปี พ.ศ. ๒๔๘๐ เป็นพระครูสัญญาบัตร ราชทินนามที่ "พระครูประโชตธรรมคุณ"

          ปี พ.ศ. ๒๔๘๓ ขณะที่หลวงพ่อชิต มีอายุได้ ๔๕ ปี พรรษา ๒๔ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์ ในวันที่ ๑๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ 

          ปี พ.ศ. ๒๔๘๔ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะอำเภอเมือง

          ปี พ.ศ. ๒๔๘๕ เป็นพระครูเจ้าคณะอำเภอชั้นโท ใช้ราชทินนามเดิม

          ปี พ.ศ. ๒๔๙๑ เป็นพระธานสอบธรรมสนามหลวง

          ปี พ.ศ. ๒๔๙๖ เป็นพระครูเจ้าคณะอำเภอชั้นเอก ใช้ราชทินนามเดิม

          ปี พ.ศ. ๒๕๐๐ เป็นกรรมการตรวจธรรมสนามหลวง

          ปี พ.ศ. ๒๕๐๘ เป็นพระครูเจ้าคณะอำเภอชั้นพิเศษ ใช้ราชทินนามเดิม

ภาพจิตรกรรมภายในวัดบางจะเกร็ง สมุทรสงคราม

          นับตั้งแต่ที่หลวงพ่อชิต ได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบางจะเกร็ง ท่านได้บูรณปฏิสังขรณ์และก่อสร้างเสนาสนะต่างๆ ภายในวัดบางจะเกร็งให้เจริญรุ่งเรืองมั่นคง นอกจากนี้ท่านยังได้ให้การอุปสมบทแก่ชาวบ้านบางจะเกร็งและระแวกใกล้เคียงอีกเป็นจำนวนมาก

          หลวงพ่อชิต ปกครองวัดเรื่อยมาจนถึงแก่มรณภาพลงด้วยโรคชรา ณ โรงพยาบาลสงฆ์ กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ ๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๐๙ เวลา ๒๐.๐๐ น. เศษ นับรวมสิริอายุได้ ๗๑ ปี ๕๐ พรรษา.

วัตถุมงคลของหลวงพ่อชิต

          เหรียญใบสาเกหลวงพ่อชิต วัดบางจะเกร็ง รุ่นแรก

          สร้างขึ้นในราว ปี พ.ศ. ๒๔๙๙ เพื่อแจกให้กับผู้ที่บริจาคทรัพย์ให้กับทางวัด ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มใบสาเกแบบมีหูในตัว มีการสร้างด้วยเนื้อทองแดงเพียงชนิดเดียว โดยมีจำนวนการสร้างประมาณ ๑,๐๐๐ เหรียญ

เหรียญหลวงพ่อชิต วัดบางจะเกร็ง รุ่นแรก ปี พ.ศ. ๒๔๙๙

          ด้านหน้า จำลองรูปหลวงพ่อชิตเต็มองค์ห่มจีวรลดไหล่ พาดผ้าสังฆาฏิ นั่งมารวิชัย ด้านล่างมีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "พระครูประโชตธรรมคุณ"

          ด้านหลัง มีรูปเสมาเหนือใบเสมามีพญานาค ๗ เศียร ด้านล่างมีอักขระยันต์ จำนวน ๑ แถว โค้งล้อไปกับขอบเหรียญ

          เหรียญเสมาหลวงพ่อชิต วัดบางจะเกร็ง รุ่นสอง

          สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๔๑๑ หลังจากที่หลวงพ่อชิตได้มรณะภาพลงแล้ว ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มทรงเสมา มีการสร้างด้วยเนื้ออัลปาก้า จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้

เหรียญเสมาหลวงพ่อชิต วัดบางจะเกร็ง รุ่นสอง ปี พ.ศ. ๒๕๑๑

          ด้านหน้า จำลองรูปหลวงพ่อชิตครึ่งองค์ห่มจีวรลดไหล่ พาดผ้าสังฆาฏิ ด้านล่างมีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "พระครูประโชตธรรมคุณ"

          ด้านหลัง มียันต์น้ำเต้าและยันต์ ๔ ด้านล่างมีเลขไทยเขียนว่า "๒๕๑๑" ซึ่งเป็นปีที่สร้างเหรียญ

          เหรียญใบสาเกหลวงพ่อชิต วัดบางจะเกร็ง รุ่นสอง

          สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๔๑๑ หลังจากที่หลวงพ่อชิตได้มรณะภาพลงแล้ว ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มทรงใบสาเกแบบเดียวกับเหรียญรุ่นแรก มีการสร้างด้วยเนื้อทองแดง จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้

เหรียญใบสาเกหลวงพ่อชิต วัดบางจะเกร็ง รุ่นสอง ปี พ.ศ. ๒๕๑๑

          ด้านหน้า จำลองรูปหลวงพ่อชิตครึ่งองค์ห่มจีวรลดไหล่ พาดผ้าสังฆาฏิ ด้านล่างมีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "พระครูประโชตธรรมคุณ"

          ด้านหลัง มีรูปเสมาเหนือใบเสมามีพญานาค ๗ เศียร ด้านล่างมีอักขระยันต์ จำนวน ๑ แถว โค้งล้อไปกับขอบเหรียญ แบบเดียวกับเหรียญรุ่นแรก


ข้อมูล : คุณต๊ะ แม่กลอง
โดย : สารานุกรม​พระเครื่อง​ลุ่ม​น้ำแม่กลอง

บทความที่เกี่ยวข้อง


***-[เป็นกำลังใจและสนับสนุน​ให้เราเขียนบทความดีๆ ช่วยกดดูโฆษณาด้านล่างนะคะ]-***

ไม่มีความคิดเห็น

ค้นหาบล็อกนี้