ประวัติและวัตถุมงคลอาจารย์หนู ทองศิริ ฆราวาสสักยันต์ธงข้างหู ที่โด่งดังของราชบุรี

อาจารย์หนู ทองศิริ อาจารย์สักชื่อดังราชบุรี

         ท่านอาจารย์หนู ทองศิริ ท่านเป็นฆราวาสจอมอาคมอีกคนหนึ่งของลุ่มน้ำแม่กลอง คนในพื้นที่ราชบุรีและดำเนินสะดวกนับถือกันเป็นอย่างมาก เอกลักษณ์ของท่านคือการสักยันต์ธงข้างหูอันลือลั่น

         อาจารย์หนู ทองศิริ ท่านเป็นคนไทยเชื้อสายจีน เป็นคนลุ่มแม่น้ำแม่กลองโดยกำเนิด เกิดเมื่อเดือนมิถุนายน  พ.ศ. ๒๔๕๐ ที่ตำบลคุ้งน้ำวน อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี 

         ปี พ.ศ. ๒๔๗๐ อาจารย์หนู ท่านมีอายุครบบวชพอดี ท่านจึงได้อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดท่าสุวรรณ ตำบลคุ้งน้ำวน อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ได้รับฉายาว่า "จิตฺตสุทฺธิ" โดยมี

         หลวงพ่อชุ่ม วัดราชคาม เป็นพระอุปัชฌาย์

         หลังอุปสมบท ท่านได้ติดตามหลวงพ่อชุ่มมาจำพรรษาที่วัดราชคาม เพื่อร่ำเรียนวิชาอาคมจนสำเร็จวิชาอาคมต่างๆ และสำเร็จวิชาอักขระเลขยันต์ต่างๆ จนหมดสิ้น แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ไม่มีประวัติบันทึกไว้ว่าท่านสึกไปเมื่อปีใด

         หลังจากที่ท่านสึกแล้ว ท่านได้กลับมาอยู่บ้านที่ข้างวัดท่าสุวรรณอันเป็นถิ่นฐานเดิมของท่าน และได้เปิดบ้านเป็นสำนักสักยันต์เรื่อยมา

         อาจารย์หนู ทองศิริ ท่านเป็นอาจารย์สักยันต์ยุคเก่าในลุ่มแม่น้ำแม่กลอง มีชื่อเสียงเคียงข้างกันมากับอาจารย์รื่น นิลแนบแก้ว ที่เป็นอาจารย์สักยันต์ชื่อดังของจังหวัดสมุทรสงคราม

ยันต์พระพรหมห้าหน้าและยันต์อื่นๆ ของอาจารย์หนู ทองศิริ

         ยันต์ครูของอาจารย์หนูนั้นได้แก่ ยันต์พระเจ้าห้าพระองค์ ยันต์ธงข้างหู นอกจากนั้นยังมียันต์พรหมห้าหน้า ยันต์พรหมสี่หน้า ยันต์ณรงค์สงคราม ยันต์พระพุทธเจ้าแผลงฤทธิ์ ยันต์มหาปราบ ยันต์เขมรใหญ่ ยันต์แหกค่ายพม่า(เป็นยันต์ที่ตกทอดมาในยุคพระเจ้าตากแหกค่ายพม่าที่ล้อมเอาไว้) เป็นต้น

         ในส่วนของประสบการณ์นั้น เลื่องลือกันไปทั่วถึงความเหนียว แคล้วคลาด จนคนเก่าๆยุคปี พ.ศ. ๒๕๐๐ ในย่านคลองดำเนินสะดวก-แม่กลอง ต่างก็รู้กันเป็นอย่างดี 

รอยสักยันต์พระเจ้าห้าพระองค์ธงข้างหู อาจารย์หนู ทองศิริ ราชบุรี

รอยสักยันต์พระเจ้าห้าพระองค์ธงข้างหู อาจารย์หนู ทองศิริ ราชบุรี

         ด้วยท่านสักมาเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า ๕๐ - ๖๐ ปี ลูกศิษย์ลูกหาท่านจึงมีอยู่เยอะมาก สมัยก่อนเล่ากันว่าในงานศพของท่าน ต้องเปิดให้ลูกศิษย์ท่านรดน้ำศพถึงสองวันเลยทีเดียว ลูกศิษย์ท่านมักจะเรียกท่านว่าเตี่ย เนื่องจากให้ความเคารพท่านเปรียบเสมือนพ่อคนนึง

         ในส่วนของวิชาอาคมของอาจารย์หนูนั้น ท่านเรียนวิชามาจากหลวงพ่อชุ่ม วัดราชคาม

         อาจารย์หนู นั้นนับถือหลวงพ่อชุ่ม เป็นอย่างมากสังเกตุได้จากหิ้งพระของท่านจะแหวนภาพของหลวงพ่อชุ่มไว้สูงที่สุดเท่าที่จะแหวนภาพพระสงฆ์ได้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงนิสัยใจคอของท่านว่าเป็นคนที่กตัญญูและยึดมั่นในครูบาอาจารย์เป็นอย่างยิ่ง

         และด้วยเหตุนี้เองศิษย์​ของอาจารย์หนู จึงนิยมบูชาหลวงพ่อชุ่ม วัดราชคามไปด้วย และเหตุนี้เองที่วัตถุมงคลของหลวงพ่อชุ่มไปตกในพื้นที่ดำเนินสะดวกเสียเอามาก

หลวงพ่อชุ่ม พุทธสโร หรือ พระครูชุ่ม วัดราชคาม

         ซึ่งหลวงพ่อชุ่มท่านนี้เป็นลูกศิษย์หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า สมัยก่อนนั้นท่านได้เดินธุดงค์ไปเรียนกับหลวงปู่ศุขพร้อมกับหลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ ซึ่งหลวงปู่ทั้งสองเป็นสหธรรมิกกัน

         นอกจากนั้นอาจารย์หนู ยังไปฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่เม้ย วัดลาดเมธังกร อาจารย์อยู่ อาจารย์มุข อาจารย์เปิง อาจารย์เคลือบ และอีกหลายท่าน

         สมัยก่อนนั้นมีเรื่องเล่ากันว่า ท่านมียันต์ต้องห้ามที่ไม่สักให้ใครง่ายๆอยู่ด้วย คือหากสักยันต์นี้ให้กับคนดีมีสัจจะถือข้อห้ามได้ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่หากสักให้คนที่ใจร้อน เลือดร้อน ไปแล้ว จะมีเหตุเกิดขึ้นหลายอย่าง เช่น อาจทำให้เป็นคนบ้าใบ้วิกลจริตไปเลยก็มี โดยหลวงพ่อบุญส่ง วัดอุบลวรรณาราม เล่าให้ฟังว่า อาจารย์หนู ถามท่านว่า  "เองรักลูกศิษย์เองมั้ย ถ้ารักก็อย่าไปสักให้มัน" 

ยันต์พระเจ้าห้าพระองค์ธงข้างหู ของอาจารย์หนู ทองศิริ (สักโดยศิษย์สายอาจารย์หนู)

         หลวงพ่อเจ๊ย วัดคลองขนอนท่านเล่าว่า บางคนเคยสักแล้วเป็นบ้า ต้องพามาหาท่าน ให้ท่านสักแก้ให้ พร้อมทั้งต้มยาให้กิน ถึงจะหายจากอาการบ้า ว่ากันว่าบางรายสักไปเกิดอาการคุ้มคลั่งที่เรียกว่า ร้อน ถึงขนาดต้องให้คนหลอกมา ให้ท่านแก้ให้ถึงจะหาย ซึ่งสาเหตุมาจากถือข้อห้ามไม่ได้ และไม่มีสัจจะนั้นเอง

         เนื่องจากอาจารย์หนูเป็นที่นับถือของคนดำเนินมาก สัญลักษณ์ธงข้างหู  จึงเป็นเครื่องหมายที่ทำให้รู้ว่าเป็นศิษย์เดียวกัน คนที่สักธงข้างหูจะรักกัน เหมือนดั่งพี่น้องกันเลยทีเดียว

อาจารย์รื่น นิลแนบแก้ว

         แต่สัญลักษณ์นี้เองก็เป็นจุดสนใจ ของวัยรุ่นในยุคนั้นอีกกลุ่ม นั้นก็คือ ศิษย์อาจารย์รื่น นิลแนบแก้ว เหมือนไม้เบื่อไม้เมา เจอกันไม่ได้ เป็นต้องตีกันเรือคว่ำเรือจมกันเลยทีเดียว แต่ทั้งสองฝ่ายจะไม่ได้รับอันตรายมาก แค่ฟกช้ำดำเขียวกันไปตามประสา เนื่องจากสองสำนักนี้ เป็นที่เลื่องลือกันว่าหนังดี 

         เล่ากันว่าสมัยก่อนลูกศิษย์ท่าน กับเจ๊กขายหมูในตลาด เกิดการท้าทายกันว่า สักเต็มตัวขนาดนี้ เหนียวหรือป่าว ลูกศิษย์ท่านจึงกล่าวว่า "ให้เจ็กนำมีดสับหมูฟันทีนึง หากไม่เข้า ขอหมูไปกินโลนึงแล้วกัน" สรุปว่าฟันไม่เข้า จึงเป็นที่มาของเรื่องฟันแลกหมู เรื่องนี้จึงเป็นหนึ่งในเรื่องเล่าที่หมู่ลูกศิษย์ท่าน เล่าต่อๆกันมา

         นอกจากเรื่องเหนียวยิงฟันไม่เข้าแล้ว ท่านยังสักมหาเสน่ห์ มหานิยม อีกด้วยโดยศิษย์บางคนจะนิยมกันมาก หนึ่งในการสักมหาเสน่ห์ มหานิยม นั้นคือการสักลิ้น ปัจจุบันหาชมได้ยาก

         อาจารย์หนูท่านเป็นอาจารย์สักยุคเก่า ในยุคสงครามโลกครั้งที่สอง ลูกศิษย์ท่านได้ไปสมัครเป็นทหารรับจ้าง มีเพื่อนร่วมรบ ตายบ้าง บาดเจ็บบ้าง แต่ลูกศิษย์ท่านกลับไม่ได้รับอันตรายใดๆ กลับบ้านครบหมดทุกคน 

         คนดำเนินเก่าๆมักจะเล่ากันว่า เมื่อก่อนขโมยในดำเนินสะดวกชุกชุม ลักขโมยเครื่องสูบน้ำบ้าง เรือบ้าง หายเป็นประจำ แต่บ้านไหนที่สักธงข้างหู จะไม่มีของหาย ด้วยพวกโจรยำเกรงไม่กล้ามีเรื่องด้วย

อาจารย์หนู ทองศิริ อาจารย์สักชื่อดังราชบุรี

         อาจารย์หนู ท่านมีการรับศิษย์แบบโบราณ ใครก็ตามที่จะสัก ท่านจะให้เข้าสวน ไปโกยดินบ้าง ดายหญ้าบ้าง คือทำงานในสวนของท่านนั้นแหล่ะ บางคนอยู่เป็นเดือนๆ เรียกว่าอยู่กินนอนบ้านท่านเลย เพื่อศึกษานิสัยใจคอ บางคนทนไม่ไหวก็กลับบ้านไป ใครผ่านเกณฑ์ที่ท่านตั้งไว้ 

         วันดีคืนดีพอทำงานเสร็จ อาจารย์หนูก็จะเรียกศิษย์คนที่ท่านคิดว่าผ่านเกณฑ์ของท่านไปสัก โดยทำพิธียกครู แล้วก็เริ่มสักกันเลย ส่วนศิษย์คนอื่นๆที่ยังไม่ผ่านเกฌฑ์ของท่านก็ ทำงานในสวนต่อไป

         ซึ่งวิธีการนี้ของท่าน ทำให้ลูกศิษย์ท่านจะมีความสนิทสนมกลมเกลียวกันและรักท่านกันทั้งหมด นับว่าเป็นอุบายการรับศิษย์ที่แปลก โดยเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ ระหว่างศิษย์กับอาจารย์ และในหมู่ศิษย์ด้วยกันเองไปในตัว

อาจารย์หนู ทองศิริ อาจารย์สักชื่อดังราชบุรี

         ในยุคที่การเดินทางไม่ค่อยอำนวย บางคนต้องว่ายข้ามแม่น้ำแม่กลอง มาขึ้นหน้าบ้านท่าน เพื่อต้องการสักยันต์กับท่านเลยทีเดียว

         อาจารย์หนู ทองศิริ ท่านมีศิษย์สืบทอดวิชาสักยันต์จากท่านคืออาจารย์ฉลวย วัดหลักสี่ หลวงพ่อเจ๊ย วัดคลองขนอน หลวงพ่อบุญส่ง วัดอุบลวรรณาราม และ หลวงพ่อดำ วัดศรีสินมา นอกจากนี้ยังมีศิษย์ที่เป็นฆราวาสอย่างอาจารย์เดือน บุญดวง อีกด้วย แค่ชื่อศิษย์แต่ละท่านก็ไม่ธรรมดาแล้ว.

         อาจารย์หนู ทองศิริ เสียชีวิตลงด้วยโรคชราเมื่อวันที่ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๗ นับรวมสิริอายุได้ ๘๗ ปี

วัตถุมงคลของอาจารย์หนู ทองศิริ

         เหรียญอาจารย์หนู ทองศิริ รุ่นแรก

         สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๑๐ เพื่อแจกให้ผู้ที่ร่วมทำบุญแซยิด หรืองานทำบุญครบรอบ ๖๐ ปีของอาจารย์หนู ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปไข่แบบมีหูในตัว มีการสร้างด้วยเนื้อเงิน กับทองเหลืองกะไหล่ทอง จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้

เหรียญอาจารย์หนู ทองศิริ วัดท่าสุวรรณ รุ่นแรก ปี พ.ศ. ๒๕๑๐ เนื้อเงิน ของคุณโอ๊ต บางแพ

เหรียญอาจารย์หนู ทองศิริ วัดท่าสุวรรณ รุ่นแรก ปี พ.ศ. ๒๕๑๐ เนื้อทองเหลืองกระไหล่ทอง

         ด้านหน้า เป็นรูปอาจารย์หนูสมัยบวชเป็นพระภิกษุ อยู่ที่วัดท่าสุวรรณ ราชบุรี ห่มจีวรลดไหล่ พาดผ้าสังฆาฏิ มีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "อาจารย์หนู จิตฺตสุทฺธิ"

         ด้านหลัง มีอักขระยันต์พระเจ้าห้าพระองค์อ่านได้ว่า "นะ โม พุท ธา ยะ" และยันต์หัวใจธาตุ "นะ มะ พะ ทะ" ใต้ยันต์มีเลขไทยเขียนว่า "๒๕๑๐" ซึ่งคือปีที่สร้างเหรียญ

         นอกจากเหรียญแล้ว ท่านยังได้สร้างตะกรุดหนังเสือ ตะกรุดโทน ตะกรุดสาริกา ผ้ายันต์ เป็นที่หวงแหนของหมู่ลูกศิษย์ และคนในพื้นที่เป็นอย่างมาก เล่นหากันไม่ต่างจากของพระเกจิเลย

ตะกรุดหนังเสือ(เลี่ยมนาค) อาจารย์หนู ทองศิริ ฆราวาสจอมขมังเวทย์

         อาจารย์หนู ท่านเป็นผู้ดำเนินการสร้างโบสถ์วัดท่าสุวรรณ ด้วยเงินที่ได้มาจากการสักของท่าน ซุ้มด้านหน้าโบสถ์ จะสลักชื่อท่าน กับภรรยาเอาไว้

         ปัจจุบันท่านเสียไปแล้ว แต่คุณงามความดีของท่าน ยังคงเป็นที่ประทับใจและเป็นที่กล่าวถึงในหมู่ลูกศิษย์เสมอมา.

โดย : สารานุกรม​พระเครื่อง​ลุ่ม​น้ำแม่กลอง

บทความที่เกี่ยวข้อง

• ประวัติและวัตถุมงคลพระครูชุ่ม หรือ หลวงพ่อชุ่ม วัดราชคาม​ พระรูปหล่อที่แพงสุดของลุ่มน้ำแม่กลอง

• อาจารย์รื่น นิลแนบแก้ว ฆราวาสจอมขมังเวทย์ อาจารย์สักเรืองวิชาของเมืองแม่กลอง 

***-[เป็นกำลังใจและสนับสนุน​ให้เราเขียนบทความดีๆ ช่วยกดดูโฆษณาด้านล่างนะคะ]-***