ประวัติและวัตถุมงคลหลวงพ่อสุพจน์ (พระสมุทรสุธี) วัดกลางเหนือ พระนักพัฒนาของเมืองแม่กลอง
หลวงพ่อสุพจน์ วัดกลางเหนือ สมุทรสงคราม |
หลวงพ่อสุพจน์ วัดกลางเหนือ หรือ พระสมุทรสุธี วัดกลางเหนือ ท่านเป็นหลานของหลวงพ่อเพชร วัดไทรโยค และเป็นนักพัฒนาที่โด่งดังอีกรูปหนึ่งของบางคนที สมุทรสงคราม
หลวงพ่อสุพจน์ พื้นเพท่านอยู่บ้านท่าโป่ง อำเภอเมือง กาญจนบุรี เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ ๑๓ เมษายน พ.ศ. ๒๔๕๕ ซึ่งตรงกับปีชวด เดือน ๕ แรม ๑๓ ค่ำ โยมบิดาของท่านชื่อนายปลีก โยมมารดาของท่านชื่อนางเผื่อน หลังท่านเกิดไม่นานโยมบิดาของท่านซึ่งเป็นทหาร ก็เสียไปด้วยโรคอหิวาตกโรค
ท่านจึงย้ายมาอยู่กับหลวงปู่เพชร เจ้าอธิการวัดสามจีน ผู้มีศักดิ์เป็นตา เมื่อมาอยู่ที่วัดสามจีน ท่านได้เรียนหนังสือขอม - ไทย โดยหลวงปู่เพชรเป็นผู้สอนให้เอง เมื่อท่านเห้นว่าอ่านและเขียนทั้งขอม - ไทยได้พอสมควรแล้วท่านก็เริ่มสอนมูลกัจจายน์(รากเง่าของภาษา) ให้อีก
ในสมัยเด็กท่านเป็นเด็กที่เกเรมาก มีวีรกรรมที่สร้างชื่อคือวันหนึ่งไปฉี่ใส่บอนของหลวงปู่เพชรตายเกือบหมด หลวงพ่อจึงลงโทษโดยการจับไปขังไว้ในกรงนกกาเหว่า เมื่อพ้นโทษออกมาแล้ว กลุ่มสหายจึงเรียกว่า "เหว่า" และเรียกชื่อนี้มาโดยตลอด
หลวงพ่อเพชร (ปุญญวชิโร) วัดไทรโยค หรือ วัดตรีจินดาวัฒนาราม |
นอกจากนี้ยังมีวีรกรรมอื่นๆอีก ทั้งแอบใส่กัญชาลงไปในแกง ที่มีคนนำมาถวายพระ เมื่อพระฉันแล้วกัญชาออกฤทธิ์ พระทั้งวัดจึงเมากัญชากันหมด เมื่อหลวงปู่เพชรทราบและสืบสาวราวเรื่อง จึงให้ท่านท่องสามเณรสิกขา ปัจจัยสันนิสิตศีล ทั้งบาลีและคำแปลได้หมดแล้วจึงบวชให้เป็นสามเณร เมื่อวันที่ ๒๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๒ เวลา ๒๔.๐๐ น. และตั้งชื่อให้ใหม่ว่า "โซน" ซึ่งแปลงมาจากคำว่าซน
เมื่อบวชแล้วจึงได้เรียนมูลกัจจายน์ใหม่ และปีนั้นเองท่านได้ขอลาหลวงปู่เพชรไปธุดงค์กับพระชั้น ไปนมัสการพระเจดีย์ชเวดากอง ที่เมืองร่างกุ้ง พระมุเตา ที่เมืองหาสาวดี พระนอนและพระเจดีย์ลอยที่ประเทศพม่า
โดยออกเดินทางเมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๒ ตอนกลับพระชั้นชวนกลับ แต่ท่านไม่กลับยังขอเดินธุดงค์ไปพระเจดีย์ชเวดากองให้ได้ พระชั้นท่านเลยกลับก่อน สามเณรโซน ท่านเดินธุดงค์แต่เพียงผู้เดียวถึง ๔ เดือนจนสำเร็จที่ตั้งใจจึงเดินทางกลับวัดสามจีน
เมื่อกลับมาถึงวัดสามจีนแล้วก็ได้รับข่าวร้ายว่าหลวงปู่เพชร ได้มรณภาพลงเสียก่อนแล้ว ท่านจึงอยู่กับพระอาจารย์พับ ฐิตินฺทริโย (ตอนหลังพระอาจารย์พับ ได้ย้ายจากวัดตรีฯ ไปเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบางกล้วย)
ได้เข้าเรียนนักธรรมที่วัดกลางเหนือ ณ ศาลาขวาง (หลังเก่าปัจจุบันท่านได้รื้อไปปลุกสร้างใหม่แล้ว) ในสมัยนั้นมีสำนักเรียนแห่งเดียว สอบได้นักธรรมตรีที่นี่ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๓
ในปี พ.ศ. ๒๔๗๓ เมื่อปลงศพคุณตา(หลวงปู่เพชร)แล้ว จึงขอร้องให้ท่านอาจารย์พับนำไปฝากเรียนบาลีที่วัดประดู่ฉิมพลี ตำบลท่าพระ อำเภอบางกอกใหญ่ จังหวัดธนบุรี อยู่กับพระครูวิริยะกิติ (หลวงปู่โต๊ะ) และปี พ.ศ. ๒๔๗๔ ท่านก็สอบนักธรรมโทได้ ในนามวัดมหาธาตุ พระนครฯ ปิดภาคเรียนแล้วจึงกลับมาที่วัดตรีฯ
ปี พ.ศ. ๒๔๗๕ สามเณรโซน ท่านมีอายุครบบวชจึงได้บรรพชาอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดตรีจินดาฯ ตำบลบางกุ้ง อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม เมื่อวันที่ ๒๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๕ ได้รับฉายาว่า "ธมฺมสโร" โดยมี
พระครูสกลวิสุทธิ เจ้าอาวาสวัดกลางเหนือ เป็นพระอุปัชฌาย์
พระอธิการอุ่ม ธมฺมโชโต เจ้าอาวาสวัดบางพลับ เป็นพระกรรมวาจาจารย์
พระอาจารย์พับ ฐิตินฺทริโย วัดบางกล้วย เป็นพระกรรมวาจาจารย์ (สมัยนั้นให้พระกรรมวาจาจารย์คู่)
หลังจากอุปสมบทแล้วท่านได้อยู่พรรษาที่วัดตรีจินดาฯ ได้ ๓ พรรษา จนถึงวันที่ ๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ ได้ย้ายไปช่วยพระอาจารย์พับ ที่วัดบางกล้วย เพื่อสนองพระคุณท่าน จนถึงปี พ.ศ. ๒๔๙๒ ครบ ๑๕ ปี ในวัดบางกล้วย
หลวงพ่อพับ วัดบางกล้วย สมุทรสงคราม |
ปี พ.ศ. ๒๔๘๒ ท่านได้กลับไปเรียนภาษาบาลีที่สำนักวัดเกตุการาม ควบคู่ไปกับการสอนหนังสือที่สำนักวัดบางกล้วยด้วยพร้อมกัน
ปี พ.ศ. ๒๔๘๓ ได้เปลี่ยนชื่อใหม่ว่า "สุพจน์" ซึ่งช่วงนี้ท่านสามารถดูแลตัวเองได้เป็นอย่างดีแล้ว จึงได้ไปรับโยมมารดามาอยู่ด้วยเพื่อจะได้ปรนนิบัติโยมมารดาอย่างดีที่สุด จนโยมมารดาของท่านถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ ๒๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๑๒
ปี พ.ศ. ๒๔๘๖ ท่านสอบเปรียญ ๓ ประโยคได้และสอบเปรียญ ๔ ประโยคได้
ปี พ.ศง ๒๔๘๘ ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระวินัยธร(ผู้พิพากษาศาลพระ) จังหวัดสมุทรสงคราม
พระครูสกลวิสุทธิ์ หรือ หลวงพ่อเหมือน วัดกลางเหนือ |
ปี พ.ศ. ๒๔๙๒ ทางวัดกลางเหนือที่มีพระครูสกลวิสุทธิเป็นเจ้าอาวาส ท่านชราภาพลงมาก ล่วงไปตามสังขาร ไม่สามารถบำเพ็ญศาสนากิจได้เต็มที่ จึงได้ทำเรื่องขอตัวพระมหาสุพจน์ ธมฺมสโร วัดบางกล้วย มาช่วยงานเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกลางเหนือ
ปี พ.ศ. ๒๔๙๕ ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสมุทรสุธี
ปี พ.ศ. ๒๔๙๖ ท่านได้รวมกับครูใหญ่โรงเรียนบางคนที (สกลวิสุทธิ์) ได้ขอเป็นโรงเรียนที่เปิดสอนในระดับมัธยม
ปี พ.ศ. ๒๕๐๒ ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อวันที่ ๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๐๒
ปี พ.ศ. ๒๕๐๓ หลวงพ่อเหมือน ถึงแก่มรณภาพ หลวงพ่อสุพจน์จึงรักษาการณ์เจ้าอาวาส
ปี พ.ศ. ๒๕๐๔ หลวงพ่อสุพจน์ ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดกลางเหนือ เมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๐๔
ปี พ.ศ. ๒๕๐๕ ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ มีนามว่า "พระสมุทรสุธี" เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๐๕
หลวงพ่อสุพจน์ ปกครองวัดเรื่อยมาจนถึงแก่มรณภาพลงด้วยโรคเยื้อหุ้มไตอักเสบและโรคหัวใจ เมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๒ เวลา ๑๐.๑๗ น. นับรวมสิริอายุได้ ๕๘ ปี ๓๘ พรรษา.
วัตถุมงคลของหลวงพ่อสุพจน์ วัดกลางเหนือ
เหรียญหลวงพ่อสุพจน์ วัดกลางเหนือ รุ่นแรก
สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๑๓ เพื่อแจกในงานพระราชทานเพลิงศพของท่าน ลักษณธเป็นเหรียญปั๊มรูปอาร์มแบบมีหูในตัว เหรียญนี้ได้รับการปลุกเสกจากพระเกจิชื่อดังในสมัยนั้นอาทิเช่น หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี หลวงพ่อเล็ก วัดตรีจินดาฯ หลวงพ่อสาย วัดจันทร์เจริญสุข เป็นต้น มีการสร้างด้วยเนื้อเงิน อัลปาก้า ทองเหลือง และทองแดง จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้
เหรียญหลวงพ่อสุพจน์ วัดกลางเหนือ รุ่นแรก ปี พ.ศ. ๒๕๑๓ เนื้ออัลปาก้า |
เหรียญหลวงพ่อสุพจน์ วัดกลางเหนือ รุ่นแรก ปี พ.ศ. ๒๕๑๓ เนื้อทองแดง |
ด้านหน้า เป็นรูปจำลองหลวงพ่อสุพจน์ครึ่งองค์หันข้าง ห่มจีวรคลุมไหล่ มีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "พระสมุทรสุธี ธมฺมสโร วัดกลางเหนือ"
ด้านหลัง มีอักขระยันต์อยู่ตรงกลางเหรียญ มีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "ที่ระลึกในงานพระราชทานเพลิงศพ ๑๑ ม.ค. ๒๕๑๓"
โดย : สารานุกรมพระเครื่องลุ่มน้ำแม่กลอง
บทความที่เกี่ยวข้อง
ไม่มีความคิดเห็น