ประวัติและวัตถุมงคลพระครูปี วัดดอนคลัง เจ้าของเหรียญลึกลับของเมืองดำเนินฯ ราชบุรี
พระครูปี วัดดอนคลัง ราชบุรี |
พระครูปี วัดดอนคลัง หรือ พระอธิการปี อดีตเจ้าอาวาสวัดดอนคลัง ตำบลดอนคลัง อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี พื้นเพท่านเป็นชาวบ้านตำบลดอนคลังโดยกำเนิด ท่านเกิดเมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๒ โยมบิดาชื่อนายยอด ไฝรี โยมมารดาชื่อนางเฮียง ไฝรี มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน ๑๒ คน โดยท่านเป็นคนที่ ๑๑
ปี พ.ศ. ๒๔๖๐ พระครูปี ท่านมีอายุ ๑๘ ปี ได้เข้ารับราชการเป็นตำรวจอยู่ที่ตัวจังหวัดราชบุรี ต่อมาในช่วงอายุ ๒๐ กว่า จึงได้ลาออกจากตำรวจ
ปี พ.ศ. ๒๔๖๓ ท่านจึงได้รับการอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดดอนคลัง ตำบลดอนคลัง อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี ได้รับฉายาว่า "จันทสร" โดยมี
หลวงพ่อฮั้ว วัดกลางวังเย็น เป็นพระอุปัชฌาย์
พระอธิการแจ้ง วัดโคกบำรุงราฎรษ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์
พระอธิการทอง วัดดอนคลัง เป็นพระอนุสาวนาจาย์
หลังจากที่อุปสมบทแล้ว ท่านได้อยู่จำพรรษาที่วัดดอนคลังเรื่อยมา เพื่อศึกษาพระธรรมวินัย และวิชาอาคมต่างๆ จากพระอาจารย์ต่างๆในพื้นที่คลองดำเนินสะดวก
ปี พ.ศ. ๒๔๖๖ พระอธิการทอง เจ้าอาวาสวัดได้ลาสิกขา ทำให้ตำแหน่งเจ้าอธิการวัดดอนคลังได้วางลง ชาวบ้านและคณะกรรมการวัดจึงพร้อมใจกันนิมนต์พระครูปี ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสวัดทดแทนตำแหน่งที่ว่างลง
วัดดอนคลัง ตั้งอยู่ที่หมู่ ๔ ตำบลดอนคลัง อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๓๐ โดยมีนายเพี่ยหุน ต๋องเรียน นายยอด ต๋องเรียน และชาวบ้านตำบลดอนคลัง ได้ร่วมกันซื้อที่ดินในราคา ๓ ตำลึง เพื่อก่อสร้างวัด
ซึ่งเป็นพื้นที่ตั้งอยู่ปลายสุดด้านทิศตะวันออกของหมู่บ้าน เป็นบริเวณที่มีความสงบเหมาะสม และ เป็นสถานที่ประกอบกิจทางศาสนาของชาวตำบลดอนคลัง โดยสร้างกุฏิแบบง่าย ๆ หลังคามุงด้วยหญ้าคา
ภายในวัดมีพระประธานประจำอุโบสถ นามว่า หลวงปู่ดำ เป็นพระพุทธรูปเก่า ชาวบ้านเชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มาก ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ภายในวิหารหน้าพระอุโบสถ
เล่ากันว่าราวสปี พ.ศ. ๒๔๙๙ พระครูปี ได้นั่งสมาธิเห็นเศียรหลวงปู่ดำที่ถูกฝังจมอยู่ในดิน ที่เมืองเก่ากำแพงเพชร และสื่อสารติดต่อกันกับเศียรหลวงปู่ดำทางฌาน หลวงปู่ดำเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ในยุคสมัยเมืองเก่ากำแพงเพชรรุ่งเรืองเฟื่องฟู
ต่อมาได้เกิดสงครามขึ้นมาหลวงปู่ดำจึงถูกทำลายจนเศียรหักตกลงอยู่กับดิน กาลเวลาที่นานมาตรงที่เศียรหลวงปู่ดำอยู่นั้นได้มีต้นไม้ปกคลุมขึ้นมาเป็นป่ารกและถูกดินฝังกลบ
พระครูปี ได้เดินทางไปขุดแล้วนำกลับมาไว้ที่วัดดอนคลัง แล้วสร้างองค์ใหม่ขึ้นมาประกอบกับเศียร เพื่อให้องค์พระสมบูรณ์ดังที่เห็นในปัจจุบัน วัดได้รับวิสุงคามสีมาเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๒ มีรายนามเจ้าอาวาสปกครองวัดที่จดบันทึกไว้ดังนี้
๑. พระอธิการหนู
๒. พระอธิการนาย
๓. พระอธิการทอง
๔. พระอธิการพรหม
๕. พระอธิการแย้ม
๖. พระอธิการทอง
๗. พระอธิการปี จันทสร
๘. พระครูโกศลรัตนคุณ
๙. พระมหาวิเชียร อุคฺคเตโช
๑๐. พระอธิการจารี ธมฺมจารี
๑๑. พระอธิการพันธวีร์ อภิวณฺโณ
หลังจากที่พระครูปีได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสวัด ท่านได้พัฒนาวัดอย่างสุดความสามารถทั้งการสร้างเสนาสนะต่างๆ และถาวรวัตถุภายในวัด จนวัดเจริญขึ้นตามลำดับ
ปี พ.ศ. ๒๔๖๖ ท่านเล็งเห็นคุณค่าของการศึกษาของบุตรธิดาของชาวบ้านในพื้นที่ ท่านจึงได้ก่อตั้งโรงเรียนวัดดอนคลังขึ้น โดยแรกเริ่มใช้ศาลาการเปรียญของวัดดอนคลังเป็นสถานที่เรียน
ปี พ.ศ. ๒๔๗๐ ท่านได้ก่อสร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่ทดแทนหลังเก่าที่ชำรุด และสร้างอุโบสถเป็นเรือนไม้ทรงไทย
ปี พ.ศ. ๒๔๙๘ ในช่วงปลายปี ท่านได้เริ่มก่อสร้างพระอุโบสถแบบทรงไทย คอนกรีตเสริมเหล็ก โดยใช้เวลาสร้างแค่ ๑ ปี ก็แล้วเสร็จในปี พ.ศ. ๒๔๙๙
ปี พ.ศ. ๒๔๙๙ ด้วยคุณงามความดีที่ท่านพัฒนาวัดจนเจริญรุ่งเรืองขึ้นเป็นอย่างมาก ท่านจึงได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นประทวน
พระอธิการปี ท่านเป็นพระนักพัฒนาและเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีวิชาอาคมขลัง เป็นที่เลื่องลือในเขตจังหวัดราชบุรีและจังหวัดใกล้เคียงรูปหนึ่ง
คนเฒ่าคนแก่สมัยนั้นเล่าสืบต่อกันมาว่า ท่านมีความเด็ดขาดในการปกครองพระเณรในวัด นอกจากนี้ท่านยังมีชื่อเสียงในด้านการสักยันต์ ท่านมีลูกศิษย์เป็นนักเลงเป็นเสือปล้นมากมายหลายคน
นอกจากนี้ท่านยังเป็นพระหมอยาแผนโบราณอีกด้วย ท่านรักษาได้แม้กระทั่งคนสติฟั่นเฟือนให้กลับหายมาเป็นคนที่มีสติเป็นคนดีตามปกติ
ในสมัยที่พระครูปี ท่านปกครองเป็นเจ้าอาวาสวัดอยู่นั้น เวลามีงานประจำปีที่วัดไม่ต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาคอยดูแลงาน ท่านจะเป็นผู้เดินดูแลงานด้วยตัวเองโดยในมือท่านจะถือหางกระเบนเอาไว้อยู่ตลอดเวลา
พวกนักเลงขี้เมามาเอะอะโวยวายในงานท่านท่านจะใช้หางกระเบนตีจนเยี่ยวราดกางเกง ปืนหรือมีดท่านไม่เคยเกรงกลัว จนใครต่อใครต่างก็กลัวอำนาจหางกระเบนของท่าน หลายคนที่มาทำในสิ่งที่ไม่ดีภายในวัด ต่างโดนท่านตีด้วยหางกระเบนจนเยี่ยวราดไปทุกราย
ปี พ.ศ.๒๕๐๒ พระครูปี ท่านมีอายุได้ ๖๐ ปี ท่านจึงได้ลาสิกขามาอยู่ที่บ้าน หมู่ที่ ๓ ตำบลดอนคลัง แล้วเปิดบ้านเป็นสำนักสักยันต์ให้กับลูกศิษย์ทั่วไป แล้วเป็นหมอยาแผนโบราณรักษาโรคให้กับคนทั่วไปอีกด้วย
พระครูปี ท่านเสียชีวิตด้วยโรคชราในปี พ.ศ. ๒๕๒๕ นับรวมสิริอายุได้ ๘๓ ปี ๔๐ พรรษา.
วัตถุมงคลของพระครูปี วัดดอนคลัง
เหรียญพระครูปี วัดดอนคลัง รุ่นแรก
สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๔๙๙ เพื่อแจกในงานปิดทองฝังลูกนิมิตรของทางวัดในปี พ.ศ. ๒๕๐๐ ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปใบสาเกแบบมีหูในตัว มีการสร้างด้วยเนื้อทองแดงเพียงชนิดเดียวเท่านั้น จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้
เหรียญพระครูปี วัดดอนคลัง ราชบุรี รุ่นแรก ปี พ.ศ. ๒๔๙๙ เนื้อทองแดงกระไหล่ทอง ของคุณภัทรเมท ธรรมกิจวัฒน์ |
เหรียญพระครูปี วัดดอนคลัง ราชบุรี รุ่นแรก ปี พ.ศ. ๒๔๙๙ เนื้อทองแดง |
ด้านหน้า เป็นรูปพระครูปีนั่งสมาธิเต็มองค์ องค์หลวงพ่อห่มจีวรลดไหล่ พาดผ้าสังฆาฏิ ข้างรูปหลวงพ่อมีอักขระยันต์ ใต้รูปหลวงพ่อมีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "พระครูปี"
ด้านหลัง มีอักขระยันต์
ภาพถ่ายอัดกระจกพระครูปี วัดดอนคลัง รุ่นแรก
สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๔๙๙ เพื่อแจกในงานปิดทองฝังลูกนิมิตรของทางวัดในปี พ.ศ. ๒๕๐๐ ลักษณะเป็นภาพถ่ายอัดกระจกสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก มีการสร้างทั้งแบบหน้าเดียวและแบบสองหน้า จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้
ภาพถ่ายอัดพระครูปี วัดดอนคลัง ราชบุรี รุ่นแรก ปี พ.ศ. ๒๔๙๙ |
ด้านหน้า เป็นรูปถ่ายพระครูปีครึ่งองค์ห่มจีวรคลุมไหล่
ด้านหลัง มีอักขระยันต์ จารด้วยหมึกดำ
โดย : สารานุกรมพระเครื่องลุ่มน้ำแม่กลอง
บทความที่เกี่ยวข้อง
ไม่มีความคิดเห็น