วันจันทร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

ประวัติและวัตถุมงคลหลวงพ่อบุญมา วัดบางคนทีนอก สมุทรสงคราม หลวงปู่ใจดีของชาวบ้านสายธรรมยุต

พระปลัดบุญมา วัดบางคนฑีนอก สมุทรสงคราม
พระปลัดบุญมา วัดบางคนฑีนอก สมุทรสงคราม

         หลวงพ่อบุญมา วัดบางคนฑีนอก หรือ พระปลัดบุญมา ปุณฺโณ อดีตเจ้าอาวาสวัดบางคนฑีนอก ตำบลกระดังงา อำเภอบางคนฑี จังหวัดสมุทรสงคราม ท่านเป็นฐานานุกรมในท่านเจ้าคุณพระสมุทรมุนี (ปั้น สุภโร) วัดธรรมนิมิตร เจ้าคณะจังหวัดสุมรสงคราม-สมุทรสาคร

         หลวงพ่อบุญมา ท่านมีนามเดิมว่า บุญมา พ่วงระยับ พื้นเพท่านเป็นชาวบ้านหมู่ ๕ ตำบลโรงหีบ อำเภอบางคนฑี จังหวัดสุมรสงคราม ท่านเกิดวัดพฤหัสบดี แรม ๕ ค่ำ เดือน ๔ ปีกุน ตรงกับวันที่ ๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๓๐ โยมบิดาชื่อนายสาย พ่วงระยับ โยมมารดาชื่อนางเอม พ่วงระยับ มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน ๓ คนคือ

         ๑. นายดาบแก้ว พ่วงระยับ

         ๒. นางจู

         ๓. นายน้อย พ่วงระยับ

         ปี พ.ศ. ๒๔๕๔ หลวงพ่อบุญมามีอายุได้ ๒๔ ปี ท่านจึงได้เข้ารับการอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดกลางเหนือ ตำบลบางกุ้ง อำเภอบางคนฑี จังหวัดสมุทรสงคราม โดยมี

         พระอธิการอ่วม ติสฺสรสฺส วัดไทร เป็นพระอุปัชฌาย์

         พระครูสกลวิสุทธิ์ (เหนือ) วัดกลางเหนือ เป็นพระกรรมวาจาจารย์

         พระอธิการแต้ม พุทฺธสโร วัดปรกราษฏรรังสฤษฏิ์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

         หลังอุปสมบทแล้วท่านได้อยู่จำพรรษาที่วัดกลางเหนือ เรื่อยมาเพื่อศึกษาวิชาและพระธรรมวินัยสายมหานิกายกับพระอาจารย์

         ปี พ.ศ. ๒๔๕๖ หลังอุปสมบทได้ ๒ พรรษา ท่านจึงได้ลาสิกขามามีครอวครัว โดยแต่งงานกับนางเป้า ชุ่มปรีชา มีบุตรด้วยกัน ๒ คน คือ

         ๑. นายพิกุล พ่วงระยับ

         ๒. นายตุ๊ พ่วงระยับ

         ได้ดำเนินชีวิตในทางฆราวาสประมาณได้ ๑๔ ปี จึงเกิดความเบื่อหน่ายในทางโลก ประกอบกับได้สร้างรากฐานให้ครอบครัวจนครบถ้วนหมดสิ้นแล้ว ท่านจึงหันหน้าเข้าสู่รสพระธรรมอีกครั้ง

         ปี พ.ศ. ๒๔๖๙ หลวงพ่อบุญมา ท่านมีอายุได้ ๔๐ ปี ท่านจึงได้อุปสมบทใหม่อีกครั้งในสายธรรมยุต ณ พัทธสีมาวัดเกตุการาม ตำบลโรงหีบ อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม เมื่อวันที่ ๑๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๖๙ เวลา ๘.๒๘ น. ได้รับฉายาว่า "ปุณฺโณ" โดยมี

         พระครูอุดมธีรคุณ (เงิน นนฺโท) วัดสัตตนาถปริวัตน์ ราชบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์

         พระอธิการวอน วัดเหนือวน ราชบุรี เป็นพระกรรมวาจาจารย์

         พระครูบัณฑรธรรมธาดา (เปลื้อง ปนฺทโร) วัดอมรเทพ สมุทรสงคราม เป็นพระอนุสาวนาจารย์

         หลังอุปสมบทแล้ว ท่านได้อยู่จำพรรษาที่วัดเกตุการามเรื่อยมา เพื่อศึกษาพระธรรมวินัยและร่ำเรียนวิชาสายธรรมยุตจนสำเร็จวิชาต่างๆ พอสมควร

         ปี พ.ศ. ๒๔๗๒ หลังอุปสมบทได้ ๓ พรรษา ท่านจึงได้ย้ายข้ามฟากมาอยู่จำพรรษาที่วัดบางคนฑีนอก ซึ่งเป็นวัดที่อยู่ตรงข้ามแม่น้ำกัน โดยมีพระสมุห์หุ่น ถาวโร เป็นเจ้าอาวาส

         ปี พ.ศ. ๒๔๙๑ พระสมุห์หุ่นได้มรณภาพลง เจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุตติกา จึงแต่งตั้งหลวงพ่อบุญมา ซึ่งขณะนั้นอุปสมบทได้ ๒๑ พรรษา ให้เป็นเจ้าอาวาสวัดบางคนฑีนอก (ตราตั้งที่ ๗/๒๔๙๑ ลงวันที่ ๒๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๙๑)

         วัดบางคนทีนอก ตั้งอยู่ที่บ้านกระดังงา หมู่ที่ ๖ ตำบลกระดังงา อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นวัดนิกายธรรมยุต ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำกับวัดเกตการาม

         วัดสร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๐๓ วัดนี้สมเด็จพระวันรัต(ทับ) วัดโสมนัสวรวิหาร เป็นผู้สร้าง โดยสมเด็จพระวันรัต(ทับ) วัดโสมนัสวรวิหาร ได้รับการถวายที่ดินจากนายพู่ และคุณหญิงอิ่ม เพื่อใช้สร้างวัด จึงมีบัญชาให้หลวงปู่ปาน โสปาโก ซึ่งขณะนั้นบวชอยู่ที่วัดโสมนัสวรวิหาร ออกมาดูแลการก่อสร้าง

          ปี พ.ศ. ๒๔๐๖ หลังจากที่ก่อสร้างวัดจนแล้วเสร็จ จึงให้ชื่อว่า "วัดธรรมยุตติการาม" แต่ชาวบ้านโดยทั่วไปเรียกว่า "วัดปากคลอง" เนื่องจากวัดตั้งอยู่ริมน้ำปากคลองบางคนที

ภาพถ่ายหลวงปู่ปาน วัดบางคนทีนอก สมุทรสงคราม
หลวงปู่ปาน วัดบางคนทีนอก (องค์กลาง) ภาพจากคุณโสฬส16

          ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๕๘ สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส สมเด็จพระสังฆาราชเจ้า ได้เสร็จมาตรวจราชการคณะสงฆ์ในจังหวัดสมุทรสงคราม ทรงเห็นว่าวัดสายธรรมยุตไม่ได้มีแค่วัดเดียวในจังหวัด จึงได้เปลี่ยนชื่อวัดเสียใหม่ให้สอดคล้องกับพื้นที่ว่า "วัดบางคนทีนอก" 

         ภายในวัดมี พระพุทธรูปปางมารวิชัย เนื้อทองเหลืองขัดหล่อ ลงรักปิดทอง จีวรลายดอกพิกุล ประดิษฐานเป็นพระประธานในอุโบสถ และหอไตรปัจจุบันทำเป็นหอสวดมนต์ วัดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๖ มีรายนามเจ้าอาวาสปกครองวัดดังนี้

         ๑. หลวงปู่ปาน โสปาโก

         ๒. พระสมุห์หุ่น ถาวโร

         ๓. พระปลัดบุญมา ปุณฺโณ

         ๔. พระอธิการแทน

         ๕. พระครูวิโรจน์สมุทรคุณ

         หลังจากที่หลวงพ่อบุญมาท่านได้เป็นเจ้าอาวาส ท่านได้พัฒนาวัดอย่างสุดความสามารถทั้งการสร้างเสนาสนะและถาวรวัตถุต่างๆ จนวัดเจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับ

         ท่านได้ปกครองพระภิกษุสามเณรมาด้วยความสงบเรียบร้อย ในลักษณะพ่อปกครองลูก ปฎิปทาของท่านมั่นอยู่ในธรรมวินัยโดยเคร่งครัด ไม่ชอบการโต้ตอบ พูดน้อย ขี้เกรงใจ รักสงบ

         ท่านได้อนุเคราะห์ช่วยเหลือด้วยความเมตตาปราณีเสมอ จนได้รับฉายาว่า "หลวงปู่ใจดี" ท่านเป็นที่รักเคารพของบรรดาศิษย์ ญาติ และผู้ที่รู้จักคุ้นเคยกับท่านโดยทั่วไป

         ปี พ.ศ. ๒๕๐๐ ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระปลัด ฐานานุกรมของท่านเจ้าคุณพระสมุทรมุนี  (ปั้น สุภโร) วัดธรรมนิมิตร เจ้าคณะจังหวัดสุมรสงคราม-สมุทรสาคร เมื่อวันที่ ๙ เมษายน พ.ศ. ๒๕๐๐

         ปี พ.ศ. ๒๔๐๖ ท่านได้สร้างพระอุโบสถและจัดวิสุงคามสีมา

         หลวงพ่อบุญมา ปกครองวัดเรื่อยมาจนถึงแก่มรณภาพลงด้วยโรคชราเมื่อวันขึ้น ๑๐ ค่ำเดือน ๕ ปีมะแม ตรงกับวันพุธที่ ๑๙ เมษยายน พ.ศ. ๒๕๑๐ เวลา ๑๗.๑๕ น. นับรวมสิริอายุได้ ๗๙ ปี ๑ เดือน ๑๒ วัน ๔๐ พรรษา.

 วัตถุมงคลของพระปลัดบุญมา วัดบางคนฑีนอก

         เหรียญพระปลัดบุญมา วัดบางคนฑีนอก รุ่นแรก

         สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๑๑ เพื่อเป็นที่ระลึกในงานฌาปนกิจศพของหลวงพ่อ ลักษณะเป็นเหรียญรูปไข่แบบมีหูในตัว มีการสร้างด้วยเนื้อทองแดงเพียงชนิดเดียวเท่านั้น จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้

เหรียญพระปลัดบุญมา วัดบางคนฑีนอก สมุทรสงคราม รุ่นแรก 2511 ทองแดงรมดำ
เหรียญพระปลัดบุญมา วัดบางคนฑีนอก สมุทรสงคราม รุ่นแรก ปี พ.ศ. ๒๕๑๑ เนื้อทองแดงรมดำ

         ด้านหน้า เป็นรูปหลวงพ่อบุญมาครึ่งองค์ ห่มจีวรลดไหล่พาดผ้าสังฆาฏิ ใต้รูปของท่านมีอักขระภาษาขอมเป็นชื่อของท่านอ่านได้ว่า "ปุณฺโณ" ซึ่งคือฉายาของท่าน รอบเหรียญมีอักขระยันต์ภาษาขอมอ่านได้ว่า "หลวงพ่อปลัดบุญมา วัดบางคนฑีนอก สมุทรสงคราม"

         ด้านหลัง มีอักขระยันต์ ใต้อักขระยันต์มีอักขระภาษาไทยเขียนว่า "๒๕๑๑"


 
โดย : สารานุกรมพระเครื่องลุ่มน้ำแม่กลอง

บทความที่เกี่ยวข้อง

***-[เป็นกำลังใจและสนับสนุน​ให้เราเขียนบทความดีๆ ช่วยกดดูโฆษณาด้านล่างนะคะ]-***

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น